บรรเทาอาการปวดของกลุ่มกล้ามเนื้อ และเยื่อพังผืด ปรับให้ทันก่อนเรื้อรังจนกลายเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ลดความเสี่ยงการเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อมกดทับเส้นประสาทจากจุดอ่อนเริ่มต้นของการปวดคอ ร้าวไปยันจุดอื่น กับวิธีแก้ปวด คอ บ่า ไหล่ ท่ายืดเส้น ที่ไม่ส่งผลร้ายต่อข้อต่อกระดูกในส่วนอื่น
ปวดคอบ่าไหล่ อาการเข้าใกล้ออฟฟิศซินโดรม
กลุ่มอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับการเป็นจุดเริ่มต้นของออฟฟิศซินโดรม คือ อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเกิดจากการเมื่อยล้าของการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเป็นเวลานานโดยไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถหรือแก้ไขพฤติกรรมในชีวิตประจำวันจนทำให้เกิดพังผืดหนาทับรัดเส้นประสาทได้ โดยส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หากสะสมเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง และเกิดอาการรุนแรงมากขึ้นร้าวไปตามบริเวณอื่น เช่น ร้าวลงแขน/ขา ร้าวลงสะโพก อาจส่งผลทำให้มีการปวดหัวไมเกรน หรือปวดกระบอกตาร่วมด้วย

จุดอันตราย สัญญาณเตือนให้รีบพบแพทย์
สัญญาณเตือนของการปวดกล้ามเนื้อที่ต้องรีบพบแพทย์ด่วน คือ อาการชา อาการอ่อนแรง ร้าวลงบริเวณต่าง ๆ ที่มีอาการปวดของกล้ามเนื้อ ส่วนมากมักจะมีอาการติดขัดในการใช้กิจวัตรประจำวัน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารไม่สะดวก เนื่องจากจับช้อนไม่ถนัด หรือลายมือที่เปลี่ยนไป เพราะไม่สามารถจับปากกาได้เหมือนเดิม

กายภาพบำบัด ลดอาการปวด เพิ่มคุณภาพชีวิต
โดยเบื้องต้นของการทำกายภาพบำบัด แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัดจำเป็นต้องวินิจฉัยประเมินอาการปวดก่อนว่าเกิดมาจากกล้ามเนื้อหรือกระดูกสันหลัง เพื่อการรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กลับมาปกติ และออกแบบโปรแกรมการรักษาส่วนบุคคลตามอาการ ร่วมกับการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยอย่าง Shockwave คลื่นกระแทก ทางเลือกใหม่ในการบำบัด หายปวดได้ไม่ต้องทนเจ็บ ซึ่งสามารถรักษาได้ผลดีโดยเฉพาะกลุ่มอาการปวด คอ บ่าไหล่ หรือออฟฟิศซินโดรม
พฤติกรรมแบบไหนชวนน่าปวดคอ บ่า ไหล่
พฤติกรรมใกล้ตัว แม้จะทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง แต่กลับก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ในปัจจุบันแนวโน้มของอาการปวด คอ บ่า ไหล่ หรือออฟฟิศซินโดรมนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยที่อายุยังน้อย เนื่องจากยุคสมัยเทคโนโลยีครองเมือง หันมาใช้คอมพิวเตอร์ และมือถือในการทำงาน สื่อสารกันเป็นประจำจึงเสี่ยงที่จะเกิดอาการได้ง่ายนั่นเอง

- การนอนหมอนสูงเกินไป
- การนอนคว่ำเป็นประจำ
- การสะบัดผม (แรง)
- การนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยไม่มีการเปลี่ยนท่า
- การนั่งทำงานกับโต๊ะและเก้าอี้ที่สัดส่วนไม่พอดีกัน
- การทำงานที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน
- การนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้อง
- ผลข้างเคียงจากการเป็นโรคอื่น ๆ เช่น โรครูมาตอยด์
- ยกของมีน้ำหนักมากเกินไป
- บาดเจ็บจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬา


ShockWave Therapy นวัตกรรมในการบรรเทาโดยเฉพาะ

คลื่นกระแทก (ShockWave)
แก้อาการปวดเรื้อรังของโรครองช้ำ พังผืดเท้าอักเสบ ปวดเอ็นร้อยหวาย ด้วยการส่งคลื่นกระแทก (Shockwave) นวัตกรรมใหม่แห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อกระตุ้นการบาดเจ็บใหม่ เร่งกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง การอักเสบ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยหลังจากการบำบัดด้วย Shockwave อาการบาดเจ็บของผู้ป่วยส่วนใหญ่ลดลงสูงถึง 50%
ShockWave เครื่องมือบรรเทาอาการปวดสมัยใหม่ นำส่งคลื่นกระแทกเข้าไปในบริเวณที่ต้องการรักษา ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นประสาทใหม่ เร่งการซ่อมแซ่มบริเวณบาดเจ็บด้วยตัวเอง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ทำงานดียิ่งขึ้น พร้อมบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็นและเนื้อเยื่อพังผืดที่ปวดเรื้อรังมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังนำไปใช้ในการรักษากลุ่มอาการเอ็นข้อมืออักเสบ กล้ามเนื้อสะโพกหนีบประสาท รองช้ำ เอ็นข้อศอกอักเสบ ได้อีกด้วย
คลื่นอัลตร้าซาวด์ กายภาพบําบัด
คลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound)
คลื่นเสียงความถี่สูง หรือคลื่นอัตลตราซาวด์ เป็นเครื่องมือรักษาบริเวณอาการปวด บาดเจ็บ และอักเสบที่อยู่ในระดับลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อและกระดูก ช่วยบรรเทาอาการปวดเข่า ลดการอักเสบของเข่า และรักษาโรคเข่าเสื่อม เพราะผลของความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือก ลดอาการบวม ลดอาการอักเสบ เร่งกระบวนการฟื้นฟูในบริเวณที่รักษา ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการทางการแพทย์

เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า กายภาพบําบัด

เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า 
(ES : Electrical Stimulation)
เพื่อคงไว้ซึ่งการทำงานของกล้ามเนื้อ
ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
ชะลอ ป้องกันการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ
เพิ่มเรียนรู้การทำงานของกล้ามเนื้อ
ลดอาการปวด
วิธีแก้ ปวดคอบ่าไหล่ ปรับก่อนเป็นเรื้อรัง
ยืดกล้ามเนื้อคอด้านข้างไหล่
- นั่งหรือยืนหน้าตรง
- ใช้มือข้างตรงข้ามที่ต้องการยืดวางบริเวณเหนือใบหู
- ดึงศีรษะด้านเข้า จนรู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อ
- ทำค้างไว้ข้างละ 15 วินาที
- ทำซ้ำข้างละ 5-10 ครั้ง

ยืดกล้ามเนื้อบ่าบริเวรสะบักหลัง
- นั่งตัวตรง
- นำมือทั้งสองข้างประสานไว้บริเวณท้ายทอย
- ก้มหน้าลง คางชิดอกค้างไว้ 10 วินาที
- ขณะที่ค้างอยู่นั้นให้หายใจเข้าออกช้า ๆ
- ทำซ้ำข้างละ 5-10 ครั้ง

ยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่า
- นั่งตัวตรง
- นำมือทั้งสองข้างประสานไว้บริเวณใต้คาง
- เงยหน้าขึ้นจนสุด หรือเงยหน้ามองเพดาน
- ทำค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำข้างละ 5-10 ครั้ง
- ขณะที่กำลังเงย และค้างอยู่นั้นให้หายใจเข้าออกช้า ๆ

ท่ายืดกล้ามเนื้อหัวไหล่
- ประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่หลัง
- ค่อย ๆ ยกแขนขึ้นจนรู้สึกว่าหัวไหล่ตึง
- ทำค้างไว้ 10-15 วินาที
- ทำซ้ำข้างละ 5-10 ครั้ง



 
															 
															 
  
															 
															 
															 
															 
						
						